วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ประสบการณ์สอนว่าอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ



       ปีนี้ก็อายุ30แล้วผมเจอเรื่องราวอะไรมาเยอะทั้งที่เจอกับตัวเองและคนอื่นเล่าให้ฟังอ่านจากเว็บไซต์บ้าง หรือว่าจากหนังสือหรือว่าตามวิดีโอของ YouTube บ้าง pageqq
       แต่สิ่งที่มีคนสอนมาตลอดทุกๆคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันมากมายนั้นก็คืออย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ซึ่งหากเราฟังเราก็คงเชื่อแหละ แต่เวลาที่เราเจอกับสถานการณ์จริงๆแล้วเราจะเป็นอีกแบบหนึ่งสมัยที่ตอนยังเด็กผมเชื่อคนง่ายมากๆ ความจริงก็ไม่เชิงเชื่อหรอกแต่เป็นการที่ไม่กล้าที่จะปฏิเสธคนอื่นมากกว่า พอโตขึ้นมาเจอเหตุการณ์ที่เราไปเชื่อคนอื่นมากๆแล้วทำให้เราเดือดร้อนในภายหลังเราถึงจะรู้ซึ่งถึงคำว่าอย่าเชื่อคนอื่นง่ายๆ pageqq
       และอีกสิ่งที่ผมตกผลึกอย่างแน่นหนานั้นก็คือไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่หากว่าเขาบอกว่าแผนการดีมากๆเราก็อย่าพึ่งไปเชื่อแบบหมดใจเพราะว่าการที่คนๆหนึ่งอยากจะทำให้เราเชื่อนั้นเขาก็ต้องค้นหาวิธีการต่างๆที่จะเอามากล่อมให้เราเชื่อ และการที่แผนการดีก็ไม่ใช่ว่าเวลาที่ลงมือปฏิบัติจริงๆแล้วเขาจะสามารถทำได้ตามแผนทุกเรื่องก็คงไม่ใช่ เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่าแผนการในโลกนี้นั้นดีหมดนั้นแหละแต่ว่าผลนั้นจะเกิดขึ้นตามแผนการหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่าหากใครที่ทำงานมาได้สักระยะหนึ่งแล้วก็คงจะเข้าใจดีว่าการที่เราจะทำให้ได้ตามแผนการที่เราวางไว้ 100% นั้นมันเป็นเรื่องที่ทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นการที่เราจะลงทุนทำอะไรตามที่คนอื่นเขามาชักชวนนั้นเราก็ควรที่จะพิจารณาหลายๆเรื่องด้วยกัน อันดับแรกก็คือแผนการนั้นเองผมบอกว่าแผนทุกแผนดีหมดผมหมายถึงผลลัพธ์ที่เขานั้นได้กำหนดเอาไว้ เราก็ต้องใช้ความสามารถในการแยกแยะว่าวิธีการที่เขานำเสนอนั้นมันน่าจะนำพาเราไปสู่เป้าหมายที่เราได้ตั้งเอาไว้หรือไม่ มันขัดแย้งกันหรือไม่อย่างไร อันดับที่สองนั้นก็คงเป็นเรื่องของทีมงานและผู้บริหาร เพราะว่าหากว่าผู้นำของแผนการนั้นเป็นคนที่ทำอะไรก็แล้วแต่ก็ไม่ค่อยที่จะประสบกับความสำเร็จ ทำแล้วก็เลิกไปกลางคันอย่างนี้เราก็อาจที่จะสันนิฐานได้ว่า แผนการที่เขานั้นได้นำมาเสนอเราในตอนนี้นั้นก็คงจะไม่แตกต่างกันเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรที่จะลงทุนหรือว่าร่วมทำกิจกรรมอะไรกับเขา จะดีกว่า และเราจะต้องเชื่อในเหตุและผลที่สามารถทำได้จริงๆว่าสิ่งที่เขาจะทำนั้นมันจะให้ผลลัพธ์ในแบบที่เขาว่าเอาไว้จริงๆหรือเปล่า ถ้ามันไม่สมเหตุสมผลเราก็ไม่ควรที่จะเข้าไปร่วมกับธุรกิจนั้นๆ pageqq


#krutum_seo

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การศึกษาของเด็กบ้านนอก



       ผมมีอาชีพเป็นครูครับสังกัด สพป  postasset ซึ่งย่อมาจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม โดยโรงเรียนที่ผมสอนอยู่นี้เขาจะเรียกกันว่าโรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งก็คือการเปิดสอนตั้งแต่ระดับ อนุบาล1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ม.3 นั้นเอง
       ผมอยากจะเล่าบรรยาการและบริบทของการศึกษาในท้องถิ่นชนบทให้ฟังเพราะท่านๆอาจจะเคยได้รับรู้เรื่องรายของการศึกษาในเมืองใหญ่กันมาแล้ว
       โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนขยายโอกาสถ้าระดับอนุบาลถึงชั้นป.6เด็กที่มาเรียนก็จะเป็นเด็กที่ฐานะทางครอบครับยากจนจนถึงพอมีกินบ้างปานกลาง ส่วนเด็กที่ฐานะทางครอบครับนั้นดีหรือพอมีอยู่มีกินบ้างก็จะเข้าไปเรียนในตัวอำเภอ ทั้งโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนของรัฐ ยกตัวอย่างของเด็กที่เข้าไปเรียนในตัวอำเภอก็อย่างเช่นลูกครู ลูกกำนัน หรือลูกของคนที่เขาค้าขายเป็นต้น  postasset
       ส่วนระดับ ม.1  ถึง  ม.3  นั้นก็เป็นเด็กที่ฐานะค่อนข้างยากจนเพราะเด็กส่วนหนึ่งพอจบ ป.6 ก็จะเข้าไปเรียนมนตัวอำเภอ
       ปัญหาการศึกษาส่วนหนึ่งมาจากการที่เด็กอยู่ในสังคมที่ไม่ได้ไฝ่รู้ไฝ่เรียนพวกเขาแค่ต้องมาเรียนทุกวันเพื่อที่จะได้วุฒิ ม.3 และออกไปทำงานหรือว่าบางคนอาจจะไปเรียนต่อสายอาชีพด้วยก็มี
       สิ่งที่ทำให้เด็กไม่สนใจในเรื่องของการเรียนนั้นก็คือ สภาพแวดล้อมนอกโรงเรียน ในโรงเรียน ครูทุกคนสอนให้เด็กเป็นคนดี แต่พอออกจากนอกรั่วโรงเรียนไปเขาก็ไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้เรียนบ้าง ติดยา ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ทะเลาะวาท ทำให้เด็กเห็นว่าสิ่งเล่านั้นว่าเป็นเรื่องที่เท่ห์และท้าทาย
       ซึ่งต่างกับที่โรงเรียนพวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาเรียนนั้นพวกเขาเรียนไปทำไหม ออกจากโรงเรียนไปก็ไม่มีใครเคยถามเลย ซึ่งเขามองไม่เห็นภาพใหญ่ของอนาคตตัวเอง และในหมู่บ้านก็ไม่มีตัวอย่างที่เขาสำเร็จจากการศึกษาให้เขาดูเลยเพราะคนที่เรียนสูงๆเขาก็ไปทำงานในตัวเมืองหรือว่าทำงานที่กรุงเทพมหานครกันหมด
       ทำให้เด็กไม่ได้รับฟังเรื่องราวหรือทัศนคติที่ดีจากรุ่นพี่ แต่กับเจอประสบการณ์ที่ส่อไปในทางที่ไม่ดีแทน และเขาก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าสิ่งที่รุ่นพี่พวกนั้นพาทำอย่างเช่น การทะเละวิวาท การดื่มสุรา  การสูบบุหรี่เป็นเรื่องที่ดี และเป็นเรื่องที่ควรทำตาม
       เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาการศึกษาของไทยได้ดีที่สุดนั้นก็คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับเด็ก ยกตัวอย่างเช่นอาจจะมีการออกไปในชุมชนเพื่อสอนผู้ปกครองให้ทราบถึงวิธีการติดตามพฤติกรรมของลูกๆ จุดสังเกตต่างๆว่าเขากำลังออกนอกลู่นอกทางหรือเปล่า มีการจัดกิจกรรมต่างๆให้พวกเขาได้แสดงออกในทางที่ถูกต้องอย่างเช่นการแข็งขันกีฬา เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2559

การลงทุนรูปแบบใหม่ ในยุคเมืองไทย 4.0



วันนี้ผมจะมานำเสนอธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตรูปแบบใหม่ ที่จะสร้างผลประโยชน์ให้พวกเราได้อย่างไม่จำกัด pageqq
            ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้หลายคนคงเริ่มมองหาอาชีพเสริม ที่จะสร้างรายได้ให้กับเราได้ ซึ่งเมื่อความต้องการของผู้คนมากขึ้นก็ทำให้เกิดการลงทุนต่างๆมากมายเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น งานขายตรง การลงทุนในหุ้น  หรือ มันนี่เกมส์ต่างๆ
            ซึ่งสิ่งที่ได้รับความสนใจมากๆนั้นก็คือเรื่องของการ หาเงินจากอินเตอร์เน็ต ทั้งรูปแบบของการ ขายสินค้า การรับจ้างคลิ๊กโฆษณา  การรับจ้างเติมเงินผ่านมือถือหรือว่าอื่นๆ อีกมากมาย
            ซึ่งหลายคนได้ทดลองทำแล้วก็รู้สึกว่าไปไม่รอดและก็เลิกทำไปในที่สุดเพราะว่า ความฝันกับความเป็นจริงเส้นทางมันไม่เหมือนกัน แต่ก็ใช้ว่าทุกการลงทุนจะไม่ดีเลย เพราะทุกการลงทุนเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งมีทั้งผู้ที่ประสบกับความสำเร็จและผู้ที่ไม่ประสบกับความสำเร็จก็มีอย่างมากมายเช่นเดียวกัน
            ผมจะขอยกตัวอย่างธุรกิจขายตรง ต่างๆ ว่าเป็นระบบที่ดี คนที่ประสบกับความสำเร็จก็มีเยอะแยอะมากมายเช่นเดียวกัน แต่คนที่ไม่ประสบกับความสำเร็จนั้นมีมากกว่า เพราะว่าลักษณะของธุรกิจขายตรงนั้นจะมีลักษณะเป็น พีระมิด ด้านบนคือจำนวนคนที่ประสบกับความสำเร็จส่วนด้านล่างคือผู้ที่ประสบความสำเร็จปานกลาง  เล็กน้อย  หรือว่าไม่ประสบกับความสำเร็จเลย
            เพราะว่าผลตอบแทนจากการทำธุรกิจขายตรงนั้นเป็นเหมือนกับ sum zero คือ ผลประโยชน์รวมจะเท่ากับศูนย์ บริษัทเอาเงินที่ทุกคนซื้อสินค้ามาหักต้นทุนและกำไรบางส่วนออกไปแล้วจ่ายคืนให้กับสมชิก ซึ่งสัดส่วนในการจ่ายนั้นก็จะไม่เท่ากัน คนที่อยู่บนยอด พีระมิดก็จะได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า ส่วนคนที่อยู่รองๆลงมาก็ได้รับผลตอบแทนลดลั่นกันไป ซึ่งเงินทั้งหมดก็คือเงินของสมาชิกนั้นเอง
            ทีนี้ วั้นนี้ผมจะมาของเสนอรูปแบบธุรกิจรูปแบบใหม่ซึ่ง ทุกคนสามารถสร้างรายได้อย่างไม่จำกัด เพราะไม่ใช่การเอาเงินของสมาชิกมาจัดสรรกันใหม่แต่มันเกิดจากเงินที่ได้จากเจ้าของสินค้าหรือบริการที่เป็นพันธมิตรกัน
            การลงทุนนั้นก็คือ pageqq นั้นเองหากจะให้สรุป รูปแบบการดำเนินธุรกิจของ pageqq แบบง่ายๆแล้วละก็ pageqq คือบริการพื้นที่ สำหรับให้สมาชิกสามารถที่จะโพสบทความ รูปภาพ หรือแม้กระทั้งวิดีโอต่างๆลงไปได้  หลังจากนั้นเราจึงนำลิงค์ที่เราได้จาก pageqq ไปแชร์ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กของเรา ไม่ว่าจะเป็น facebook,google+,หรือแม้กระทั้ง line ก็ตาม ซึ่ง pageqq ก็จะมีระบบสำหรับการนับจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ของเรา สิ้นเดือนเราก็จะได้รับผลตอบแทนจากจำนวนวิวที่เราทำได้ในรอบเดือนนั้น
            ซึ่งผลตอบแทนต่อวิวที่ว่านี้ เป็นจำนวนเงินที่ไม่แน่นอน ระบบจะคำนวณจาก จำนวนเงินที่มีคนมาลงโฆษณากับเว็บpageqq หารด้วยจำนวน วิวทั้งหมด ของระบบ ก็จะออกมาเป็นจำนวนเงินที่เราได้รับในแต่ละเดือน ซึ่งจะมากจะน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคลนั้นเอง
            ตรงนี้คือโอกาสที่เราไม่สามารถหาได้ง่ายๆโดยทั่วไป ที่จะมีคนยื่นเครื่องมือดีๆมาให้เราใช้ในการหาเงิน โดยคิดราคากับเราถูกมากๆ เพราะเงินนั้นจริงๆแล้วมีอยู่ในอากาศเต็มไปหมดขึ้นอยู่กับเราว่าจะมีวิธีการอย่างไร ที่จะหยิบเอาเงินนั้นมาใช้

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม Click
http://pageqq.co