วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การศึกษาของเด็กบ้านนอก



       ผมมีอาชีพเป็นครูครับสังกัด สพป  postasset ซึ่งย่อมาจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม โดยโรงเรียนที่ผมสอนอยู่นี้เขาจะเรียกกันว่าโรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งก็คือการเปิดสอนตั้งแต่ระดับ อนุบาล1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า ม.3 นั้นเอง
       ผมอยากจะเล่าบรรยาการและบริบทของการศึกษาในท้องถิ่นชนบทให้ฟังเพราะท่านๆอาจจะเคยได้รับรู้เรื่องรายของการศึกษาในเมืองใหญ่กันมาแล้ว
       โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนขยายโอกาสถ้าระดับอนุบาลถึงชั้นป.6เด็กที่มาเรียนก็จะเป็นเด็กที่ฐานะทางครอบครับยากจนจนถึงพอมีกินบ้างปานกลาง ส่วนเด็กที่ฐานะทางครอบครับนั้นดีหรือพอมีอยู่มีกินบ้างก็จะเข้าไปเรียนในตัวอำเภอ ทั้งโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนของรัฐ ยกตัวอย่างของเด็กที่เข้าไปเรียนในตัวอำเภอก็อย่างเช่นลูกครู ลูกกำนัน หรือลูกของคนที่เขาค้าขายเป็นต้น  postasset
       ส่วนระดับ ม.1  ถึง  ม.3  นั้นก็เป็นเด็กที่ฐานะค่อนข้างยากจนเพราะเด็กส่วนหนึ่งพอจบ ป.6 ก็จะเข้าไปเรียนมนตัวอำเภอ
       ปัญหาการศึกษาส่วนหนึ่งมาจากการที่เด็กอยู่ในสังคมที่ไม่ได้ไฝ่รู้ไฝ่เรียนพวกเขาแค่ต้องมาเรียนทุกวันเพื่อที่จะได้วุฒิ ม.3 และออกไปทำงานหรือว่าบางคนอาจจะไปเรียนต่อสายอาชีพด้วยก็มี
       สิ่งที่ทำให้เด็กไม่สนใจในเรื่องของการเรียนนั้นก็คือ สภาพแวดล้อมนอกโรงเรียน ในโรงเรียน ครูทุกคนสอนให้เด็กเป็นคนดี แต่พอออกจากนอกรั่วโรงเรียนไปเขาก็ไปอยู่กับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้เรียนบ้าง ติดยา ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ทะเลาะวาท ทำให้เด็กเห็นว่าสิ่งเล่านั้นว่าเป็นเรื่องที่เท่ห์และท้าทาย
       ซึ่งต่างกับที่โรงเรียนพวกเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาเรียนนั้นพวกเขาเรียนไปทำไหม ออกจากโรงเรียนไปก็ไม่มีใครเคยถามเลย ซึ่งเขามองไม่เห็นภาพใหญ่ของอนาคตตัวเอง และในหมู่บ้านก็ไม่มีตัวอย่างที่เขาสำเร็จจากการศึกษาให้เขาดูเลยเพราะคนที่เรียนสูงๆเขาก็ไปทำงานในตัวเมืองหรือว่าทำงานที่กรุงเทพมหานครกันหมด
       ทำให้เด็กไม่ได้รับฟังเรื่องราวหรือทัศนคติที่ดีจากรุ่นพี่ แต่กับเจอประสบการณ์ที่ส่อไปในทางที่ไม่ดีแทน และเขาก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าสิ่งที่รุ่นพี่พวกนั้นพาทำอย่างเช่น การทะเละวิวาท การดื่มสุรา  การสูบบุหรี่เป็นเรื่องที่ดี และเป็นเรื่องที่ควรทำตาม
       เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาการศึกษาของไทยได้ดีที่สุดนั้นก็คือ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับเด็ก ยกตัวอย่างเช่นอาจจะมีการออกไปในชุมชนเพื่อสอนผู้ปกครองให้ทราบถึงวิธีการติดตามพฤติกรรมของลูกๆ จุดสังเกตต่างๆว่าเขากำลังออกนอกลู่นอกทางหรือเปล่า มีการจัดกิจกรรมต่างๆให้พวกเขาได้แสดงออกในทางที่ถูกต้องอย่างเช่นการแข็งขันกีฬา เป็นต้น